เทคโนโลยี Facebook Drone เริ่มต้นมาจากการที่ Mark Zuckerberg CEO บริษัท Facebook
ได้มีความคิดจัดทำโครงการการกุศลในชื่อ Internet.org http://internet.org/.โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้คนที่ยากไร้ได้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตกันได้ง่ายและทั่วถึงมากยิ่งขึ้น
ซึ่งนอกจาก Facebook ภายใต้การนำของ Zuckerberg ผู้ผลักดันโครงการนี้แล้ว ยังมีบริษัทไอทีให้การสนับสนุนโครงการ Internet.org
นี้ด้วยได้แก่ Samsung, Nokia, Qualcomm, Ericsson, Opera และ Mediatek โดยบริษัทเหล่านี้ จะร่วมกันวางแผนและดำเนินงานในการขยายโอกาสการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตให้แก่ประชากรโลกอีกราว
5 พันล้านคน (หรือ 2 ใน 3 ของประชากรโลกทั้งหมด)
จากที่ในปัจจุบันนี้มีผู้ที่สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตได้ราว 2.7 พันล้านคนเท่านั้น
(ที่มา :
QUARTZ )
โดยช่องทางในการดำเนินงานนั้นมีหลากหลาย
ซึ่งเหล่าบริษัทผู้ร่วมโครงการนั้นมีศักยภาพที่จะทำได้ตั้งแต่
การสร้างสมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่ผู้คนสามารถซื้อหาได้ การนำอินเทอร์เน็ตไปสู่พื้นที่ทุรกันดารห่างไกลความเจริญ
ตลอดจนถึงการพัฒนาระบบและแอพพลิเคชั่นสำหรับอินเทอร์เน็ตให้ใช้แบนด์วิธได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
หลังจากเปิดตัว
Internet.org ไปเมื่อปีที่แล้ว ทาง Facebook ก็มีความคิดริเริ่มที่จะปรับปรุงการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตทั่วทุกมุมโลกโดยเปิดตัวทีมนักวิทยาศาสตร์ที่เข้ามาร่วมทำโครงการนี้ว่าทีม Connectivity
Lab ซึ่งกำลังพัฒนาการเชื่อมต่อในรูปแบบใหม่ๆ ที่สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งบนพื้นดิน
อากาศ หรือแม้แต่ในวงโคจร และทาง Facebook ได้ทำการซื้อกิจการ
Ascenta เป็นบริษัทที่ผลิต Drone (ยานต์บินไร้คนขับ)
ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์สัญชาติอังกฤษในมูลค่าสูงถึง 20 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากหวังผลว่ายานบินจะช่วยกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ
ทั่วโลก โดยจะทำงานร่วมกับ Internet.org
สำหรับ Drone
นั้นถูกผลิตขึ้นโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์
สามารถบินลอยอยู่บนท้องฟ้าได้นานถึง 5 ปี หน้าที่หลักของมันคือเป็น Hub สำหรับการสื่อสาร โดยยานหนึ่งลำสามารถสร้างเครือข่ายของ voice และ data เทียบเท่ากับเสาส่งสัญญาณมือถือ 100 ต้น
สำหรับแผนงานในช่วงแรกนั้น Facebook จะนำไปทดลองบินบริเวณน่านฟ้าในทวีปแอฟริกาก่อนเป็นที่แรก
และจากกระบวนการพัฒนาการเชื่อมต่อในรูปแบบดังกล่าว
จึงมีการเรียกชื่อเทคโนโลยีนี้ว่า Facebook Drone
(ที่มา :
edition.cnn.com
)

